สาเหตุของเอชไอวีและเอดส์คือ ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์ ที่โจมตีระบบภูมิคุ้มกันของบุคคล ส่งผลให้ผู้ประสบภัยเกิดโรคได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของทั้งสองโรคนั้นแตกต่างกัน เอชไอวีคือระยะเริ่มต้นของโรคและโรคเอดส์คือระยะหลัง ไม่ใช่ทุกคนที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์) จะเป็นโรคเอดส์ แต่ผู้ที่เป็นโรคเอดส์ทุกคนต้องติดเชื้อไวรัสเอชไอวี
สาเหตุของเอชไอวีและเอดส์
เอชไอวีเป็นหนึ่งในรูปแบบของไวรัสที่แพร่เชื้อในชิมแปนซีแอฟริกา นักวิจัยสงสัยว่า SIV (ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่อง simian) ถ่ายทอดจากชิมแปนซีสู่มนุษย์เมื่อมนุษย์กินเนื้อชิมแปนซีที่ติดเชื้อ นอกจากนี้ SIV ยังกลายพันธุ์ในร่างกายมนุษย์เป็น HIV (ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์). ประมาณว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1920 เมื่อเวลาผ่านไป ไวรัสเอชไอวียังคงแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งผ่านทางของเหลวในร่างกายของผู้ป่วย เริ่มตั้งแต่เลือด น้ำอสุจิ ของเหลวในช่องคลอด ไปจนถึงน้ำนมแม่ (นมแม่) แต่การสัมผัสผู้ป่วยโดยไม่ตั้งใจจะไม่เป็นสาเหตุของเอชไอวีจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีคนติดเชื้อเอชไอวี?
เมื่อบุคคลได้รับการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดเอชไอวีจะโจมตีเซลล์ที่เรียกว่า CD4 T เซลล์เหล่านี้เป็นหนึ่งในเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ในการต่อสู้กับโรค ในสภาวะที่มีสุขภาพดี คนๆ หนึ่งจะมีเซลล์ CD4 T มากถึง 500 ถึง 1500 ตัวต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี จำนวนเซลล์ CD4 T ในร่างกายจะลดลงเนื่องจากไวรัสเอชไอวี ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยอ่อนแอลงเมื่อไรมีคนบอกว่าเป็นโรคเอดส์?
บุคคลสามารถติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดเอชไอวีโดยมีหรือไม่มีอาการก็ได้ ไวรัสสามารถพัฒนาได้นานหลายปีโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งผู้ป่วยเข้าสู่ระยะสุดท้ายของภาวะนี้ หรือพัฒนาเป็นเอดส์ในที่สุด บุคคลถูกกำหนดให้เป็นโรคเอดส์เมื่อจำนวนเซลล์ CD4 T ในร่างกายต่ำกว่า 200 และมีอาการป่วยอื่น ๆ ที่มักมาพร้อมกับโรคเอดส์ เช่น การติดเชื้อรุนแรงหรือมะเร็งใส่ใจกับเหตุปัจจัยเอชไอวีและเอดส์
บุคคลสามารถติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ได้เมื่อติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ภาวะนี้มักจะถ่ายทอดจากผู้ป่วยผ่านทางของเหลวในร่างกาย นี่คือตัวอย่างการส่งสัญญาณ:เพศสัมพันธ์
เข็มฉีดยาและการถ่ายเลือด
ขั้นตอนการคลอดบุตร