น้ำส้มสายชูหรือที่รู้จักกันว่าน้ำส้มสายชูเป็นของเหลวรสเปรี้ยวที่ทำจากการหมักส่วนผสมต่างๆ ตั้งแต่แอปเปิ้ล ข้าว ไปจนถึงไวน์ นอกจากส่วนผสมในการทำอาหารแล้ว น้ำส้มสายชูมักใช้รักษาโรคต่างๆ ตามธรรมชาติ คำว่าน้ำส้มสายชูนั้นมาจากภาษาฝรั่งเศสคือ "วิน" และ "ไอเกร" ซึ่งหมายถึงไวน์เปรี้ยว โดยทั่วไป น้ำส้มสายชูจะทำโดยการเปลี่ยนน้ำตาลในส่วนผสมหลักเป็นแอลกอฮอล์ผ่านกระบวนการหมัก หลังจากนั้นแบคทีเรียกรดอะซิติก (Acetobacter) จะเปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นกรดอะซิติก ซึ่งทำให้น้ำส้มสายชูมีรสเปรี้ยว
ประเภทของน้ำส้มสายชู
ต่อไปนี้คือประเภทของน้ำส้มสายชูที่คุณสามารถใช้ในการปรุงอาหารและเป็นวิธีการรักษาแบบธรรมชาติ น้ำส้มสายชูหมักจากน้ำส้มสายชูที่ใช้กันมากที่สุด1. น้ำส้มสายชูขาว (น้ำส้มสายชูขาว)
น้ำส้มสายชูขาว น้ำส้มสายชูที่รู้จักกันในนามน้ำส้มสายชูสีขาวเป็นหนึ่งในน้ำส้มสายชูที่ใช้กันมากที่สุดโดยเฉพาะในอาหารอินโดนีเซียต่างๆ ในน้ำส้มสายชูประเภทนี้มักจะมีกรดอะซิติกประมาณ 4-7% และส่วนที่เหลือ 93-96% เป็นน้ำ ตามเนื้อผ้า น้ำส้มสายชูสีขาวมักจะทำโดยการหมักส่วนผสมจากธรรมชาติต่างๆ เช่น มันฝรั่งหรือหัวบีตแต่ในปัจจุบันนี้ น้ำส้มสายชูสีขาวมักผลิตขึ้นโดยตรงโดยใช้การหมักแอลกอฮอล์ของเอธานอลผสมกับยีสต์หรือฟอสเฟต
2. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์)
น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลหรือที่รู้จักกันในนามน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ทำโดยใช้น้ำแอปเปิ้ลที่ผสมกับยีสต์เพื่อให้น้ำตาลธรรมชาติในนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ได้ กระบวนการนี้เรียกว่าการหมัก เมื่อกระบวนการหมักเกิดขึ้น แบคทีเรียในนั้นจะเปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นกรดอะซิติกน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์มักจะบริโภคโดยตรงโดยการเจือจางหรือใช้เป็นยาธรรมชาติ