มีคนไม่กี่คนที่ยังคงสับสนเมื่อแยกแยะระหว่างภาวะเฉียบพลันและเรื้อรัง คำศัพท์สองคำนี้มักใช้สลับกันได้ โดยปกติแล้วเพื่อระบุความรุนแรงของโรค อันที่จริง ความแตกต่างระหว่างโรคเฉียบพลันและเรื้อรังนั้นเกี่ยวกับระยะเวลาของโรคมากกว่าและไม่ใช่ความรุนแรง การเจ็บป่วยเฉียบพลันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ในขณะที่โรคเรื้อรังปรากฏขึ้นช้าและค่อยเป็นค่อยไป โรคสามารถจัดประเภทเป็นแบบเฉียบพลันเมื่อเกิดขึ้นครั้งแรกแล้วพัฒนาเป็นเรื้อรัง และในทางกลับกัน
ความแตกต่างระหว่างโรคเฉียบพลันและเรื้อรัง
คุณต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างเฉียบพลันและเรื้อรังเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดเมื่อได้รับการวินิจฉัย การทำความเข้าใจคำศัพท์สองคำนี้ยังมีประโยชน์ในการให้ภาพรวมของขั้นตอนการรักษาที่จำเป็นต้องดำเนินการ นี่คือความแตกต่างระหว่างโรคเฉียบพลันและโรคเรื้อรังที่คุณจำเป็นต้องรู้1. โรคเฉียบพลัน
การเจ็บป่วยเฉียบพลันมีคุณลักษณะหลายอย่างที่คุณจำได้ เช่น:- อาการเกิดขึ้นเร็วหรือกะทันหัน
- โรคมักจะอยู่ได้ไม่นานหรือจะหายภายในเวลาไม่ถึง 6 เดือน
- มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย อุบัติเหตุ การบาดเจ็บ หรือการใช้ยาในทางที่ผิด
- อาการชัดเจนและต้องรักษาอย่างน้อยในระยะสั้น
- อาการดีขึ้นทันทีเมื่อรับการรักษา
- มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย
- ในบางกรณีสามารถรักษาได้เองตามภูมิต้านทานของร่างกายหรือได้รับความช่วยเหลือจากภูมิคุ้มกันที่ดี
- แตกหัก
- เบิร์นส์
- เป็นหวัด
- การติดเชื้อทางเดินหายใจ
- เจ็บคอ
- หลอดลมอักเสบ
- หัวใจวาย
2. โรคเรื้อรัง
ในขณะเดียวกันโรคเรื้อรังมีลักษณะตรงกันข้ามกับโรคเฉียบพลันดังนี้- อาการจะไม่รู้สึกได้ทันทีและจะแย่ลงหลังจากผ่านไประยะหนึ่งเท่านั้น
- โรคนี้ยังคงอยู่หลังจาก 6 เดือนตั้งแต่เริ่มมีอาการ
- มักเกิดจากวิถีชีวิตที่ไม่แข็งแรง สภาพทางสังคมและจิตใจที่ไม่เอื้ออำนวย หรือเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมหรือพันธุกรรม
- พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
- โรคดำเนินไปอย่างช้าๆและในระยะแรกมักจะไม่มีใครสังเกตเห็น
- ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมได้
- ขอบเขตกว้างขึ้นหรือเป็นระบบ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต กายภาพบำบัด และการบริโภคยาในระยะยาว
- โรคเบาหวาน
- อัลไซเมอร์
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
- โรคหัวใจ
- คอเลสเตอรอลสูง
- ความดันโลหิตสูง
- โรคอ้วน
- จังหวะ
- ภาวะซึมเศร้า
- โรคกระดูกพรุน
- โรคข้ออักเสบ