คุณเคยมีเลือดออกหนักและไม่สม่ำเสมอในช่วงหรือระหว่างรอบเดือนหรือไม่? หากคุณเคยเป็นมาก่อน มีโอกาสสูงที่คุณจะเป็นโรค menometrorrhagia ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม ผู้หญิงจะมีเลือดออกเป็นประจำและในปริมาณปกติ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ใช้ไม่ได้กับผู้หญิงที่เป็นโรค menometrorrhagia ดังนั้น menometrorrhagia คืออะไร?
menometrorrhagia คืออะไร?
Menometrorrhagia เป็นโรคของวัฏจักรของการมีเลือดออกมากเกินไปและเป็นเวลานานจากมดลูกที่ไม่สม่ำเสมอและบ่อยครั้ง ปัญหานี้เกิดขึ้นในผู้หญิงประมาณ 24 เปอร์เซ็นต์อายุ 40-50 ปี อันที่จริง menometrorrhagia เป็นการรวมกันของความผิดปกติของประจำเดือนสองแบบ ได้แก่ :- Menorrhagia หรือมีเลือดออกในมดลูกมากที่เกิดขึ้นเป็นระยะ
- Metrorrhagia หรือมีเลือดออกผิดปกติ
คุณสมบัติ Menometrorrhagia
การตกเลือดที่มากเกินไปและรุนแรงนี้ไม่ใช่ภาวะปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันรบกวนชีวิตประจำวันของคุณ สัญญาณที่อาจบ่งบอกว่าคุณมีประจำเดือน ได้แก่:- เลือดซึมผ่านแผ่นทุกชั่วโมงเป็นเวลาหลายชั่วโมง
- มีเลือดออกมากกว่า 8 วัน
- เลือดออกผิดปกติหรืออยู่นอกรอบประจำเดือนปกติ
- มีลิ่มเลือดขนาดใหญ่
- ปวดหลังและท้องขณะมีประจำเดือน
- เหนื่อยล้า อ่อนแรง หรือหายใจลำบาก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าคุณขาดธาตุเหล็กในเลือด ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
สาเหตุของภาวะมีประจำเดือน
ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของ menometrorrhagia อย่างไรก็ตาม ตามที่ผู้เชี่ยวชาญ ภาวะนี้อาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้:ฮอร์โมนไม่สมดุล
ขาดการตกไข่
ปัญหาการแข็งตัวของเลือด
Endometriosis
อะดีโนไมโอซิส
การเจริญเติบโตผิดปกติในมดลูก
วิธีจัดการกับภาวะมีประจำเดือน
ปริมาณเลือดที่เสียไปอาจทำให้คุณเป็นโรคโลหิตจาง ซึ่งเลือดจะขาดเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย หากไม่มีเลือดที่อุดมด้วยออกซิเจน ร่างกายของคุณก็จะมีปัญหา Menometrorrhagia อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงเช่นมะเร็งของระบบสืบพันธุ์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องปรึกษาแพทย์ทันที การรักษาภาวะนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุ โดยปกติการรักษาเบื้องต้นที่แพทย์อาจทำได้ กล่าวคือ- ยาคุมกำเนิดเพื่อควบคุมระดับฮอร์โมนของคุณ
- การบำบัดด้วยโปรเจสตินซึ่งสามารถช่วยทำให้เยื่อบุมดลูกบางลงและลดการไหลเวียนของเลือด แพทย์ของคุณจะแนะนำ progestin ในรูปแบบเม็ดยาเป็นเวลา 21 วันแล้วหยุดเป็นเวลา 7 วันหรือใช้ IUD
- ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ที่สามารถบรรเทาอาการปวดและช่วยให้เลือดแข็งตัวซึ่งจะช่วยลดการไหลเวียน