การวางตัวเป็นทัศนคติที่ชอบสอน รู้สึกดีขึ้น และชอบดูถูกผู้อื่น ไม่มีเหตุผลอันสมควรในการดูหมิ่นพฤติกรรมของผู้อื่น Frank J. Ninivaggi จิตแพทย์จาก Yale University School of Medicine กล่าวว่าการดูถูกคนอื่นเป็นการแสดงออกถึงความอิจฉาริษยา นอกจากนี้ ความอิจฉายังทำให้บางคนประพฤติตัวไม่สุภาพ ไม่สุภาพ สนุกกับการเสียดสี และพฤติกรรมแย่ๆ อื่นๆ ตามความปรารถนาที่จะควบคุม
ลักษณะของคนชอบดูถูกคนอื่น
คนที่ชอบดูถูกคนอื่นมักจะคิดว่าตัวเองฉลาดและสำคัญที่สุด นอกจากนี้ ยังมีคุณลักษณะที่จำง่ายหลายประการ:- รู้สึกว่าตัวเองฉลาดที่สุด
- การคิดว่าคนอื่นโง่
- รู้สึกถึงความต้องการและสิทธิที่จะแก้ไขผู้อื่นตลอดเวลา
- รับคำวิจารณ์ไม่ได้
- ภูมิใจ
- เชื่อว่าความคิดเห็นของตนดีที่สุดและเป็นที่ต้องการของผู้อื่น
- พยายามมั่นใจอยู่เสมอ
- มีรสนิยมไม่ปลอดภัย ในตัวเขา
- ดีใจได้อวด
- การรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นดูมีระดับที่สุดแม้ว่าจะไม่ใช่ก็ตาม
ผลกระทบของการดูหมิ่นผู้อื่น
คนที่ดูถูกเหยียดหยามอาจมีปัญหามากมายเมื่อพูดถึงคนอื่น หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น คุณจะถูกคนรอบข้างหรือคนรอบข้างรังเกียจเพราะ:- ดูเหมือนไม่สนใจคนรอบข้าง
- พูดมากเกินไปและโต้เถียงเกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่เก่งและแสร้งทำเป็นรู้ทุกอย่าง
- การถูกดูถูกเหยียดหยามอยู่ตลอดเวลาจะทำให้คนอื่นไม่ชอบคุณ
- ทัศนคติการอุปถัมภ์ของคุณจะขับไล่ผู้คนออกไปเพราะพวกเขาเหนื่อยเกินกว่าจะโต้ตอบกับคุณ
- คนที่ชอบดูถูกคนอื่น ไม่ชอบยอมรับคำวิจารณ์ ไม่อยากฟังคนอื่นด้วยซ้ำ ไม่แปลกใจเลยที่คนอื่นจะเริ่มพูดลับหลังคุณ
- ไม่มีใครอยากรับมือกับคนที่ชอบดูถูกคนอื่น สิ่งนี้จะทำให้คุณสร้างเครือข่ายหรือเชื่อมต่อ รับโปรโมชั่น หรือลูกค้าใหม่ได้ยาก
- คนที่ชอบดูถูกคนอื่นจะดึงดูดการตัดสินที่ไม่ดีสำหรับตัวเอง สิ่งนี้จะทำให้คุณดูมีระดับ
วิธีจัดการกับพฤติกรรมดูถูกเหยียดหยาม
เมื่อพิจารณาถึงผลที่ตามมาของการดูหมิ่นผู้อื่นที่อาจเป็นอันตรายต่อคุณ คุณควรแก้ไขทัศนคตินี้ทันที เคล็ดลับคือการเริ่มพัฒนาพฤติกรรมเชิงบวก เช่น:- เป็นคนถ่อมตัว. พยายามอย่าโอ้อวดเกี่ยวกับตัวเอง
- เปลี่ยนความคิดของคุณให้เป็นบวกมากขึ้น อยู่ห่างจากความคิดเชิงลบและความปรารถนาที่จะใส่ร้ายผู้อื่น
- อย่าตัดสิน. อย่าใช้อคติและแบบแผนเป็นพื้นฐานในการตัดสินผู้อื่น
- วิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ได้ดี อย่าถือเป็นความพยายามที่จะโจมตีคุณ
- มี ความนับถือตนเอง (ความนับถือตนเอง) ก็ดี จะได้ไม่อิจฉาคนอื่นง่ายๆ
- พัฒนาความสามารถในการเพลิดเพลินกับการฟังผู้อื่น
- รักและห่วงใยคนรอบข้าง
- Milki เชื่อว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกันโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา เชื้อชาติหรือสีผิว