สาเหตุของเลือดกำเดาไหลที่มีอาการปวดหัวนั้นมีความหลากหลายมาก ตั้งแต่การเจ็บป่วยทั่วไป เช่น ไมเกรน ไปจนถึงโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว ในกรณีส่วนใหญ่ สาเหตุของเลือดกำเดาไหลเป็นอาการทั่วไป แต่ก็มีบางโรคที่สามารถทำให้เกิดสิ่งนี้ได้ การทราบสาเหตุต่างๆ จะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่ดีที่สุดจากแพทย์
สาเหตุของเลือดกำเดาไหลปวดหัว
เลือดกำเดาไหลอาจเกิดขึ้นได้หากเส้นเลือดแตกในจมูก เนื่องจากหลอดเลือดในบริเวณนี้มีความอ่อนไหวมาก จึงขาดง่ายเนื่องจากอากาศหรือสภาพอากาศที่แห้งเกินไปหรือเกิดการบาดเจ็บที่จมูก อาการปวดหัวมีสาเหตุที่พบบ่อยหลายประการ ตั้งแต่ภาวะขาดน้ำ ความเครียด ไปจนถึงการรับประทานอาหารที่ไม่ดี เลือดกำเดาไหลและปวดหัวมักไม่เกิดขึ้นพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมหรือเงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่างสามารถกระตุ้นให้เลือดกำเดาไหลและปวดหัวได้ในเวลาเดียวกัน1. กะบังเบี่ยง
สาเหตุของเลือดกำเดาไหลที่มีอาการปวดหัว หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของเลือดกำเดาที่มีอาการปวดหัวคือ: กะบังเบี่ยง. ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อกระดูกจมูก (กะบัง) และกระดูกอ่อนจะงอ กะบังเบี่ยง นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดอาการเจ็บใบหน้า หายใจลำบาก และรูจมูกข้างเดียวอุดตันได้2. ไมเกรน
ไมเกรน ซึ่งเป็นอาการปวดศีรษะที่พบบ่อยที่สุดชนิดหนึ่ง อาจทำให้เลือดกำเดาไหลและปวดหัวได้ จากการศึกษาพบว่าผู้ใหญ่ที่เป็นไมเกรนมักมีอาการเลือดกำเดาไหล ผลการศึกษาเดียวกันยังอธิบายด้วยว่าเลือดกำเดาไหลเป็นสัญญาณว่าไมเกรนกำลังจะมา3. การตั้งครรภ์
อาการปวดหัวและเลือดกำเดาไหลเป็นอาการของการตั้งครรภ์ที่พบบ่อย นั่นคือเหตุผลที่การตั้งครรภ์เป็นหนึ่งในสาเหตุของเลือดกำเดาไหลที่มาพร้อมกับอาการปวดหัวที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ในระหว่างตั้งครรภ์ เยื่อบุโพรงจมูกจะได้รับเลือดมากขึ้น ดังนั้นหลอดเลือดในบริเวณนั้นจึงมีความเสี่ยงที่จะแตกออกมากขึ้น เมื่อหลอดเลือดในจมูกแตก เลือดกำเดาไหลอาจเกิดขึ้นได้ นอกจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเลือดกำเดาไหลแล้ว การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้ผู้หญิงปวดหัวได้4.ปัญหาประจำวันที่มักพบเจอ
เลือดกำเดาไหลอาจเกิดจากปัญหาในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและปัญหาทั่วไปในชีวิตประจำวันยังเป็นสาเหตุของอาการเลือดกำเดาไหลที่มีอาการปวดหัวอีกด้วย อะไรคือปัญหาในชีวิตประจำวันและปัจจัยแวดล้อม?- ไข้หวัดใหญ่
- โรคภูมิแพ้
- การติดเชื้อที่จมูกและโพรงไซนัส
- การใช้ยาลดไข้หรือยาพ่นจมูกมากเกินไป
- โพรงจมูกแห้ง
- การใช้ยาบางชนิด เช่น วาร์ฟาริน
- อาศัยอยู่ในที่ที่มีอากาศแห้ง
- โรคโลหิตจาง
- อาการบาดเจ็บที่ศีรษะ
5. เงื่อนไขทางการแพทย์ที่ร้ายแรง
นอกจากสาเหตุต่างๆ ของเลือดกำเดาไหลที่มีอาการปวดหัวที่พบได้ทั่วไปข้างต้น ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ถือว่าร้ายแรงกว่านั้นอีก เช่น- เพิ่มจำนวนเกล็ดเลือด aka thrombocytemia
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- โรคหัวใจพิการ แต่กำเนิด
- เนื้องอกในสมอง
อาการที่ต้องระวัง
นอกจากการทำความเข้าใจสาเหตุต่างๆ ของเลือดกำเดาไหลที่มีอาการปวดหัวข้างต้นแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ อีกหลายประการที่คุณควรระวังด้วย หากมีอาการเลือดออกตามไรฟันและปวดศีรษะร่วมด้วย ให้ไปพบแพทย์ทันที:- เป็นลม
- ความสับสน
- อัมพาตที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
- ไข้
- พูดยาก
- เดินลำบาก
- คลื่นไส้
- ปิดปาก