เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ อาหารที่เข้ามาจะต้องผ่านกระบวนการย่อยอาหารก่อน เอนไซม์ย่อยอาหารในระบบย่อยอาหารช่วยเปลี่ยนส่วนผสมอาหารต่างๆ เช่น โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ได้ การย่อยอาหารประกอบด้วยสองประเภทคือทางกลและทางเคมี การย่อยทางกล หมายถึง กระบวนการย่อยอาหารที่เริ่มจากปากเมื่อคุณเคี้ยว แล้วเคลื่อนไปทางกระเพาะอาหารจนไปสิ้นสุดที่ลำไส้ ในขณะเดียวกันการย่อยทางเคมีเป็นกระบวนการย่อยอาหารด้วยความช่วยเหลือของเอนไซม์เพื่อให้อนุภาคมีขนาดเล็กลงและร่างกายสามารถดูดซึมได้ เอนไซม์ย่อยอาหารคืออะไรและทำหน้าที่อะไรในร่างกาย?
เอนไซม์ย่อยอาหารหลายชนิด
เอนไซม์ย่อยอาหารถูกผลิตขึ้นทั่วทางเดินอาหาร เช่นเดียวกับในปาก ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เอ็นไซม์ย่อยอาหารคือเอ็นไซม์ที่หลั่งออกมาจากทางเดินอาหารเพื่อช่วยให้ร่างกายย่อยอาหาร อวัยวะหลายส่วนหลั่งเอนไซม์ระบบย่อยอาหาร รวมทั้งต่อมน้ำลาย กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ตับ และลำไส้เล็ก ต่อไปนี้เป็นเอ็นไซม์หลายชนิดและหน้าที่ของเอนไซม์ในระบบย่อยอาหาร1. อะไมเลส
เปิดตัวจากรีวิวชื่อ อะไมเลส เอนไซม์ย่อยอาหารอะไมเลสมีบทบาทในการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นน้ำตาลอย่างง่าย (กลูโคส) อะไมเลสเป็นเอนไซม์ย่อยอาหารที่ผลิตโดยต่อมน้ำลายและตับอ่อน เมื่อเคี้ยวอาหาร เอนไซม์นี้จะถูกหลั่งโดยต่อมน้ำลายในปาก เอนไซม์อะไมเลสที่ทำงานที่นี่เรียกว่าพตยาลิน นี่คือจุดเริ่มต้นของกระบวนการย่อยอาหาร หลังจากที่อาหารถูกกลืนเข้าไป อะไมเลสในตับอ่อนจะทำงานเพื่อทำให้กลูโคสง่ายขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้สามารถดูดซึมเข้าสู่อวัยวะย่อยอาหาร ได้แก่ ลำไส้เล็กได้ในภายหลัง2. โปรตีเอส
เอนไซม์โปรตีเอสเป็นเอนไซม์ย่อยอาหารที่พบในกระเพาะอาหารและตับอ่อน เอนไซม์ย่อยอาหารเหล่านี้เรียกอีกอย่างว่าเปปไทเดส โปรตีโอไลติก หรือโปรตีเอส หน้าที่หลักของเอนไซม์โปรตีเอสคือการเปลี่ยนโปรตีนในอาหารให้เป็นกรดอะมิโนเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ ไม่ใช่แค่สลายโปรตีน อ้างจากวารสาร ชีวโมเลกุล เปปเตสยังมีบทบาทในการแบ่งตัวของเซลล์ การแข็งตัวของเลือด และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เอนไซม์โปรตีเอสประเภทหลัก ได้แก่ :- เปปซิน , เอนไซม์ที่ผลิตขึ้นในกระเพาะอาหาร
- ทริปซิน เกิดขึ้นเมื่อเอนไซม์ที่ผลิตโดยตับอ่อนถูกกระตุ้นโดยเอนไซม์ในลำไส้เล็ก ทริปซินกระตุ้นเอนไซม์อื่นๆ ที่ผลิตโดยตับอ่อน เช่น คาร์บอกซีเปปติเดสและไคโมทริปซิน เพื่อช่วยสลายเปปไทด์ (โปรตีนรูปแบบหนึ่ง)
- ไคโมทริปซิน ทำหน้าที่สลายเปปไทด์ให้เป็นกรดอะมิโนเพื่อให้ดูดซึมโดยผนังลำไส้เล็ก
- คาร์บอกซีเปปติเดส ผลิตโดยตับอ่อน
3. ไลเปส
ไลเปสเป็นเอนไซม์ย่อยอาหารที่ผลิตโดยตับอ่อน เอนไซม์ไลเปสทำหน้าที่เผาผลาญไขมัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนไตรกลีเซอไรด์เป็นกรดไขมันและกลีเซอรอล เอนไซม์ไลเปสมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ผลิต ได้แก่ ไลเปสในตับ (ไลเปสตับ) เนื้อเยื่อไขมันและลำไส้เล็ก ทำหน้าที่สลายไขมันเท่าๆ กัน ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต ตัวอย่างเช่น ไลเปสในตับทำหน้าที่สลายไขมันในตับ บทบาทของไลเปสที่นี่มีความสำคัญมากในการก่อตัวของ LDL4. มอลตา
Maltase เป็นเอนไซม์ย่อยอาหารที่ผลิตโดยลำไส้เล็ก หน้าที่ของมันคือการเปลี่ยนมอลโตส (รูปแบบของน้ำตาล) เป็นกลูโคสที่ง่ายกว่า ต่อมาร่างกายจะใช้กลูโคสเป็นพลังงาน คาร์โบไฮเดรตที่เข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นมอลโทสด้วยเอนไซม์อะไมเลส5. แลคเตส
แลคเตสเป็นเอนไซม์ย่อยอาหารที่มีหน้าที่ในการเปลี่ยนแลคโตสให้เป็นน้ำตาลอย่างง่าย ได้แก่ กลูโคสและกาแลคโตส แลคโตสพบได้ในผลิตภัณฑ์นมหลายชนิดและอนุพันธ์ของแลคโตส เอนไซม์แลคเตสถูกผลิตขึ้นทั่วลำไส้ เมื่อเปลี่ยนแลคโตส ผนังลำไส้จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น แลคโตสที่ไม่ดูดซึมสามารถหมักโดยแบคทีเรียในลำไส้ ภาวะนี้อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ของระบบย่อยอาหาร เช่น ท้องอืดหรือมีแก๊ส6. ซูคราส
เอนไซม์ซูเครสผลิตโดยลำไส้เล็กและทำหน้าที่เปลี่ยนซูโครสเป็นฟรุกโตสและกลูโคสเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น [[บทความที่เกี่ยวข้อง]]ปัญหาสุขภาพเนื่องจากขาดเอนไซม์ย่อยอาหาร
การขาดเอนไซม์ในระบบย่อยอาหารอาจทำให้อาหารไม่ย่อยได้ หน้าที่หลักของเอนไซม์ย่อยอาหารคือการเปลี่ยนส่วนประกอบในอาหารให้เป็นโมเลกุลที่ง่ายกว่า ต่อมาร่างกายจะใช้โมเลกุลเป็นสารอาหารในขณะที่สนับสนุนการทำงานของเซลล์ การขาดเอนไซม์ย่อยอาหารอาจนำไปสู่ปัญหาทางเดินอาหารและภาวะทุพโภชนาการ หากไม่ตรวจสอบ ภาวะนี้จะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เงื่อนไขหลายประการอาจทำให้บุคคลขาดเอนไซม์ย่อยอาหาร เช่น- ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
- โรคปอดเรื้อรัง
- มะเร็งตับอ่อน
- ป่อง
- ผายลมบ่อยๆ
- ท้องเสีย
- กินแล้วเป็นตะคริว
- อุจจาระเป็นสีเหลืองและตามด้วยน้ำมัน
- การลดน้ำหนักแม้จะทานอาหารปกติ