ไข้หรือความร้อนในร่างกายมักปรากฏขึ้นเมื่อบุคคลมีปัญหาสุขภาพ ไข้เองไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย ดังนั้นถ้ากินยาลดไข้ อาการจะหายเป็นปลิดทิ้ง ไม่ใช่โรค โดยปกติ ไข้เป็นกลไกที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายพยายามต่อสู้กับการติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา หรือส่วนประกอบที่เป็นอันตรายอื่นๆ ดังนั้น หากไข้ยังคงไม่รุนแรง แพทย์มักไม่แนะนำให้คุณทานยาลดไข้ทันที เพราะอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้นนั้นมีประโยชน์จริง ๆ ในการฆ่าสาเหตุของโรค อย่างไรก็ตาม เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีอาการอื่นๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายร่วมด้วย ยารักษาไข้ถือว่ามีประโยชน์ในการป้องกันอาการชักและลดความรุนแรงของอาการ
ประเภทของยารักษาไข้ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา
ประเภทของยารักษาไข้ที่หาซื้อได้ตามเคาน์เตอร์ ได้แก่ พาราเซตามอลและยาในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น ไอบูโพรเฟน นาโพรเซน และแอสไพริน1. พาราเซตามอล
พาราเซตามอลหรือที่เรียกว่าอะซิตามิโนเฟนเป็นยาแก้ไข้และบรรเทาอาการปวด ยานี้มีอยู่ในการเตรียมการต่างๆ ตั้งแต่ยาเม็ด แคปซูล ผง ไปจนถึงน้ำเชื่อม พาราเซตามอลปลอดภัยสำหรับการบริโภคของทารกที่มีอายุมากกว่า 6 เดือนจนถึงผู้ใหญ่ แต่แน่นอนว่ามีขนาดแตกต่างกัน คุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาบนบรรจุภัณฑ์และอย่ากินเกินปริมาณที่แนะนำ ในบางคน ยานี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น:- คลื่นไส้
- ปิดปาก
- นอนไม่หลับ
- โรคภูมิแพ้
- อาการคันและผื่นแดง
- ยาทำให้เลือดบางลง เช่น วาร์ฟาริน
- ยารักษาวัณโรคหรือยารักษาวัณโรคที่เรียกว่าไอโซไนอาซิด
- ยารักษาอาการชัก เช่น carbamazepine และ phenytoin
2. ไอบูโพรเฟน
นอกจากจะช่วยลดความร้อนแล้ว ยานี้ยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบหรืออักเสบและปวดตามร่างกายได้อีกด้วย ยานี้สามารถบริโภคได้โดยเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปและผู้ใหญ่ที่มีปริมาณต่างกัน ที่สำคัญที่สุด ให้ปฏิบัติตามปริมาณที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์เสมอ โดยทั่วไป ไอบูโพรเฟนปลอดภัยสำหรับการบริโภค แม้ว่าสำหรับบางคนก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในรูปแบบของอาการปวดท้องได้ ดังนั้นจึงมักแนะนำให้ทานยานี้หลังรับประทานอาหาร ระวังการใช้ไอบูโพรเฟนหากคุณกำลังใช้ยาทำให้เลือดบางเช่นวาร์ฟารินเป็นประจำ ยานี้ไม่ควรรับประทานร่วมกับยาประเภทอื่น ๆ เช่น:- Celecoxib
- วาร์ฟาริน
- Cyclosporine ยาลดภูมิคุ้มกัน
- ยาขับปัสสาวะและยารักษาโรคความดันโลหิตสูงอื่นๆ