ความแตกต่างระหว่างอาการท้องอืด หวัด และการตั้งครรภ์กลายเป็น "ปริศนา" ที่แก้ได้ยาก ผู้หญิงที่อยากมีลูกย่อมอยากรู้คำตอบใช่ไหม? ท้องอืด แสดงว่าท้องหรือเปล่า? ปัญหาคืออาการของการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มาในรูปแบบที่ไม่ต่างจากปัญหาสุขภาพในชีวิตประจำวัน เช่น อาการเจ็บหน้าอกจาก PMS (กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน) ซึ่งคล้ายกับสัญญาณของการตั้งครรภ์ในช่วงต้นหรือรู้สึกเหนื่อยระหว่าง PMS ซึ่งคล้ายกับอาการตั้งครรภ์ ด้วยเหตุนี้ การรู้ความแตกต่างระหว่างอาการท้องอืดและความหนาวเย็นจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีการทดสอบการตั้งครรภ์
ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ต่างกันอย่างไร รู้หรือไม่?
หากคุณมีเพศสัมพันธ์ ท้องอืดอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้ในระยะแรก แต่ปัญหาคือ ยังมีอีกหลายอย่างที่อาจทำให้ท้องอืดได้ รวมทั้งเป็นหวัด ผู้หญิงที่คอยติดตามรอบเดือนอย่างขยันขันแข็งยังสามารถบอกความแตกต่างระหว่างอาการท้องอืด หวัด และการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีประจำเดือนช้า ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น อาการของการตั้งครรภ์ในระยะแรกๆ ที่ผู้หญิงรู้สึกคล้ายกับปัญหาในชีวิตประจำวันมาก ดังนั้นการรู้ความแตกต่างระหว่างท้องอืดและท้องจะยากถ้าไม่มีตัวช่วย ชุดทดสอบ และชุดตรวจการตั้งครรภ์อื่นๆ นอกจากชุดทดสอบแล้ว ให้มาหาสูติแพทย์เพื่อตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรืออัลตราซาวนด์ (USG) เพื่อตรวจสอบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ อ่านเพิ่มเติม: 12 ลักษณะของครรภ์ยังเล็กที่ผู้มีโอกาสเป็นแม่ต้องเข้าใจตรวจหาอาการอื่นๆ ของการตั้งครรภ์
อาการท้องอืดและการตั้งครรภ์นั้นแยกแยะได้ยากมาก อาการท้องอืดเป็นสัญญาณของสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์หรือไม่? โดยทั่วไปอาการของการตั้งครรภ์ในรูปของอาการท้องอืดจะมาในสัปดาห์ที่ 11 ในระยะนี้ จะมีอาการอื่นๆ ของการตั้งครรภ์ที่จะเกิดขึ้น แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างอาการของโรคหวัดและการตั้งครรภ์ระยะแรก? สำหรับอาการต่างๆ ของการตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรกที่รู้สึกไม่เพียงแค่ท้องอืด อาการอื่นๆ ของการตั้งครรภ์ก็จะปรากฏขึ้นเช่นกัน เช่น- ปลายเดือนหน้า
- ปวดท้อง
- รู้สึกคลื่นไส้
- อารมณ์ไม่แน่นอน
- เจ็บหน้าอก
- อิจฉาริษยา
- อาหารไม่ย่อย
- ปวดศีรษะ
- ผมหนาขึ้นเป็นมันเงา
- การปรากฏตัวของความขาว
- ปวดท้อง